หุ้น UKEM ร้อน รายย่อย-สถาบันแห่จองเกลี้ยง 34 ล้านหุ้น ที่ปรึกษามั่นใจธุรกิจโดดเด่น ขณะที่ราคาจองเหมาะสม เหตุมีส่วนลดให้นักลงทุน ด้านผู้บริหารปลื้ม ลั่นเดินหน้ารักษาอัตราเติบโตของยอดขายและกำไร

นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์บีฟิท จำกัด (มหาชน) ในฐานะแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นบริษัท ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล จำกัด (มหาชน) หรือ UKEM เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล ให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 34 ล้านหุ้น ราคาขายหุ้นละ 2.52 บาท มูลค่าที่ตราไว้ต่อหุ้นละ 1 บาท ในระหว่างวันที่ 13-15 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งประเภทสถาบัน และนักลงทุนรายย่อยเป็นอย่างดี จนสามารถปิดการขายได้อย่างสมบูรณ์

ทั้งนี้ คาดว่า หุ้นบริษัทยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล จะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (MAI) ได้ในวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ โดยใช้ตัวย่อว่า UKEM

"การที่หุ้น UKEM ได้รับความสนใจจากนักลงทุน เป็นเพราะนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในตัวบริษัท ซึ่งมีลักษณะโดนเด่น คือ เป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์มาเป็นเวลากว่า 25 ปี และธุรกิจประเภทนี้ มีคู่แข่งภายในประเทศซึ่งอยู่ในขนาดเดียวกันน้อยรายมาก จึงยากที่จะมีผู้เข้ามาแทรกตลาดใหม่ๆ รวมทั้งบริษัทยังมีความสัมพันธ์อันยาวนานกับกลุ่มลูกค้า และมีการศึกษาความต้องการของตลาด และลูกค้าเฉพาะรายที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการให้เครดิตการค้าแก่ลูกค้าที่ยาวนาน บวกกับการบริการที่ดี และโอกาสในการเติบโตที่มีอีกมาก ซึ่งเหล่านี้เป็นข้อได้เปรียบของบริษัท" นายประสิทธิ์กล่าว

ขณะเดียวกัน การตั้งราคาจองซื้อหุ้นยังอยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งมีส่วนลดให้กับนักลงทุนด้วย

ด้านนายพีรเจต สุวรรณนภาศรี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้ทราบจากแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นว่า หุ้น UKEM ได้รับความสนใจจากนักลงทุนก็รู้สึกดีใจ และต้องขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้การต้อนรับและให้ความเชื่อมั่นเป็นอย่างดี และในฐานะของผู้บริหารบริษัท ขอให้ความมั่นใจกับ ผู้ลงทุนว่า บริษัทจะดำเนินงานเพื่อรักษาอัตราการขยายตัวของยอดขายและกำไรอย่างสม่ำเสมอ เช่นที่เคยทำได้อย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

สำหรับเงินที่ได้รับจากการระดมทุนในครั้งนี้ประมาณ 85 ล้านบาทนั้น ส่วนหนึ่งจะนำไปชำระหนี้เงินกู้ระยะสั้น และส่วนที่เหลือจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทต่อไป