บริษัทนำเข้า-ส่งออกและจำหน่ายสารเคมี "ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล" พร้อมเสนอขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกเดือน พ.ย. นี้ เผยอยู่ระหว่างยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต. เตรียมกระจาย 34 ล้านหุ้น มั่นใจพื้นฐานแกร่ง หลังยอดขายโตต่อเนื่อง ตามอุตสาหกรรมผลิตสี-สิ่งพิมพ์ขยายตัว

นายพีรเจต สุวรรณนภาศรี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ซึ่งคาดว่าจะสามารถเสนอขายได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ก่อนที่จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ

ทั้งนี้ บริษัทมีทุนจดทะเบียน 165 ล้านบาท และทุนชำระแล้วก่อนการเสนอขายหุ้น 131 ล้านบาท โดยบริษัทจะเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปจำนวน 34 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท

สำหรับบริษัท ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจนำเข้า-ส่งออกและจำหน่ายเคมีภัณฑ์ประเภทสารทำละลายหรือโซลเว้นท์(Solvents) ซึ่งเป็นผลผลิตจากกระบวนการกลั่นน้ำมันดิบ โดยใช้เป็นตัวทำละลายในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมสี อุตสาหกรรมเกี่ยวกับหมึก-สิ่งพิมพ์ อุตสาหกรรมเรซิ่น รวมทั้งอุตสาหกรรมเกี่ยวกับพลาสติกและถุงด้วย

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีบริษัทย่อย 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท ไลอ้อน เอเชีย (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจนำเข้า-ส่งออกและจำหน่ายเคมีภัณฑ์ประเภทสารทำละลายชนิดพิเศษ ซึ่งไม่เป็นอันตรายกับสภาวะแวดล้อม ซึ่งสินค้าของบริษัทจะเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าระดับบน นอกจากนี้ ยังมีบริษัท ยูเนี่ยน อินทราโก้ จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจนำเข้า-ส่งออกและจำหน่ายเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ โดยผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะเป็นสารเคมีชนิดใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยมีจำหน่ายมาก่อนหรือเป็นผลิตภัณฑ์เคมีที่ทำหน้าที่สร้างคุณลักษณะพิเศษเฉพาะให้กับสินค้าบางประเภท

ทางด้านผลการดำเนินงานนั้น บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในปี 2546 ยอดขายอยู่ที่ 1,088.08 ล้านบาท และในปัจจุบันเฉพาะครึ่งปีแรกก็สามารถทำยอดขายได้แล้วประมาณ 900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

"ยอดขายส่วนใหญ่มาจากการจำหน่ายเคมีภัณฑ์ให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตสี ทั้งกลุ่มสีทาอาคาร สีอุตสาหกรรมและสีรถยนต์ ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ก็มีการผลิตเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนในครึ่งแรกของปี 2548 นั้น การขยายตัวของยอดขายเป็นผลจากการจำหน่ายเคมีภัณฑ์ให้กลุ่มหมึกพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ ที่มีการเติบโตในอัตราที่สูง" นายพีรเจตกล่าว

รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล กล่าวด้วยว่า เชื่อว่า นักลงทุนจะสนใจหุ้นของบริษัท เนื่องจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีความจำเป็นต้องใช้ตัวทำละลายยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่บริษัทมีประสบการณ์ในการดำเนินกิจการดังกล่าวมากว่า 25 ปี อีกทั้งยังได้รับความไว้วางใจให้เป็นคู่ค้ากับบริษัทสำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็นบริษัท ไทย เอ็ม ซี จำกัด ในเครือกลุ่มมิตซูมิชิ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงบริษัท เอ็กซอนโมบิลเคมี (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือทีพีไอ